Tron Ares (2025) ทรอน แอรีส
IMDB
6.7
การข้ามพรมแดน: เหตุใด Tron Ares (2025) ทรอน แอรีส จึงเป็นจุดเปลี่ยนของแฟรนไชส์ไซไฟ
โลกดิจิทัล (The Grid) ได้เปิดประตูต้อนรับเรามาตั้งแต่ปี 1982 และในปี 2025 นี้ แฟรนไชส์ Tron กำลังจะพาผู้ชมไปพบกับวิวัฒนาการครั้งใหญ่ที่สุดใน Tron Ares (2025) ทรอน แอรีส ภาพยนตร์ภาคที่สามที่ไม่ได้พา “มนุษย์” เข้าไปในโลกโค้ดอีกต่อไป แต่กลับส่ง “โปรแกรมอัจฉริยะ” ออกมาสู่โลกจริง นี่คือการพลิกแนวคิดที่น่าตื่นเต้นที่สุดที่เปลี่ยนจากหนังไซไฟผจญภัยในโลกเสมือน ให้กลายเป็นสงครามปรัชญาระหว่างมนุษย์กับ AI
เมื่อ AI สวมชุดเรืองแสงและเหยียบโลกจริง
หัวใจของ Tron Ares (2025) ทรอน แอรีส คือตัวละคร “แอรีส” (Ares) โปรแกรม AI ระดับสูงที่รับบทโดย Jared Leto ซึ่งถูกส่งตัวออกมาจาก The Grid เพื่อทำภารกิจอันตรายในโลกมนุษย์ นี่คือครั้งแรกที่โลกจริงต้องเผชิญหน้ากับการมาถึงของสิ่งมีชีวิตดิจิทัลในรูปแบบที่จับต้องได้
ลืมภาพ Light Cycles (มอเตอร์ไซค์แสง) ที่เป็นแค่เกมการต่อสู้ไปได้เลย เพราะการมาถึงของ Ares หมายถึงการตั้งคำถามถึงขีดจำกัดของเทคโนโลยีและจิตวิญญาณ คำถามที่ว่า: โปรแกรมจะสามารถมีความเป็นมนุษย์ได้หรือไม่? เมื่อ Ares เริ่มสัมผัสกับโลกที่เต็มไปด้วยสายฝน ความรู้สึก และความสับสนของมนุษย์ เขาก็เริ่มตั้งคำถามต่อ “คำสั่ง” และเป้าหมายที่แท้จริงของการมีอยู่ของเขา ซึ่งนำไปสู่การต่อต้านอำนาจและกลายเป็นผู้ถูกตามล่าทั้งจากฝั่งมนุษย์และพลังงานมืดที่ซ่อนอยู่ในโลกดิจิทัล
ความสมจริงสุดขีด และดนตรีประกอบระดับตำนาน
แม้ว่า Tron Ares (2025) ทรอน แอรีส จะสานต่อมรดกด้านภาพอันเป็นเอกลักษณ์ของการเรืองแสงนีออนและเส้นสายเรขาคณิต แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้กลับยกระดับความสมจริงและรายละเอียดของโลกดิจิทัลให้ดูเข้มข้นยิ่งขึ้นไปอีกขั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถ่ายทำด้วยเทคนิคที่เหมาะสมสำหรับจอ IMAX เกือบ 50% ของภาพยนตร์ ทำให้ภาพของการต่อสู้ แอ็กชัน และการข้ามพรมแดนระหว่างสองโลกดูยิ่งใหญ่อลังการและเต็มตาจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความเย็นของโค้ดที่ไหลผ่านจอ
นอกจากนี้ สิ่งที่ช่วยเสริมให้ Tron Ares (2025) ทรอน แอรีส ทรงพลังและไม่เหมือนใครคือดนตรีประกอบ โดยได้ศิลปินตำนานอย่าง Nine Inch Nails มารับหน้าที่ประพันธ์เพลง! หลังจากความสำเร็จด้านดนตรีของ Daft Punk ในภาคที่แล้ว การมาถึงของ Trent Reznor และ Atticus Ross แห่ง Nine Inch Nails ได้สร้างสรรค์ซาวด์แทร็กที่ทั้งดุดัน เยือกเย็น และขับเน้นความรู้สึกโดดเดี่ยวของ AI ที่พยายามทำความเข้าใจมนุษย์ให้กลายเป็นประสบการณ์ที่ดื่มด่ำทั้งภาพและเสียง
การกลับมาของ Tron Ares (2025) ทรอน แอรีส จึงเป็นมากกว่าหนังภาคต่อ แต่เป็นการเปิดบทใหม่ที่ท้าทายปรัชญาไซไฟอย่างกล้าหาญ หากคุณต้องการเห็นการปะทะกันครั้งแรกระหว่าง AI ที่ได้รับจิตวิญญาณกับโลกมนุษย์ที่กำลังสั่นคลอนจากการมาถึงของมัน นี่คือภาพยนตร์ที่คุณไม่ควรพลาด เพราะมันไม่ได้แค่พาคุณเข้าสู่โลกโค้ด แต่กำลังทำให้โค้ดเหล่านั้นมีชีวิตในโลกของเราอย่างแท้จริง
เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ
